…มีคนถามข้าว่า รูปเคารพ ที่เราเคารพนับถือกัน พระพุทธองค์ ไม่ได้ทรงบัญญัติ ในพุทธวจน ก็ไม่มีกล่าว
นี่..เป็นเรื่องของเหล่าเกจ
วัดของเขา ไม่มีแล้ว รูปเคารพ ที่เป็นพระพุทธรูป และจะห้ามสร้างรูปเคารพ ทั้งหลาย ให้เหล่าผู้ศรัทธาทั้งหลาย เดินตามธรรมแห่งพุทธวจน..แต
พระอาจารย์ มีความเห็นว่าอย่างไร เพราะพระอาจารย์ เคยกล่าวไว้ในบทธรรมว่า พระพุทธรูปเหล่านี้ เป็นแค่อิฐแค่ปูน ทองแเดง ทองเหลือง พระอาจารย์เคยพูดใช่ไหม..??
>>.. ข้าก็ขอยกมาโม้ต่อในนี้เลย หลายๆ คน จะได้ทราบๆ กัน..!!!
เรื่องพุทธวจน นี้.. เป็นคำที่เราแปลและลอกเขามา
เราลอกเขามา จากบาลีขอม ไม่ว่าจะไปยกเอาคำแปลมาจากห
ท่านจะไปค้นหนังสือเก่าแก่แ
พระไตรปิฏกเรา ก็แปลมาจากของขอม อีกที แล้วเราเป็นคนยุคนี้ ไปตัดสินได้ไง ว่านี่ เป็นคำจากพระโอษฐ์ นี่เป็นคำจากสาวก
อย่างนี้ เราเอาทิฏฐิ เข้าไปตัดสิน ซึ่งเราก็มีความเห็นและตัดส
ขึ้นชื่อว่าธรรม หากเป็นไปเพื่อเหตุปัจจัยแห
ตำราเป็นแค่แนวทางที่ใช้ในก
พระไตรปิฏก ก็เหมือนมังคุดทั้งลูก พวกคุณเป็นคนมีปัญญา ก็ย่อมแกะเปลือกออกเพื่อกิน
คนโง่งี่เง่า ที่ไม่รู้จักแยกแยะเนื้อเยื
เขาไม่ได้โง่ แต่เพราะความไม่รู้ จึงทำให้เขากินมันทั้งเปลือ
คนฉลาดย่อมหัวร่อ และเลือกกินแต่เนื้อเยื่อ นี่มันก็ถูก แต่คนฉลาดคงลืมไปว่า คนฉลาดเลือกกินแต่เนื้อเยื่
เปลือก ย่อมรักษาเนื้อเยื่อ ให้อยู่คงทนและยาวนาน คนโง่ ที่ยังกินมังคุดทั้งเปลือก คนฉลาด ย่อมบอกกล่าวและสะกิดได้
คนโง่ ถ้ามันไม่ดื้อด้าน มันก็คงเชื่อ คนฉลาดอยู่
ว่านี่คือเปลือก ว่านี่คือเนื้อเยื่อ เรา..ควรกินแต่เนื้อเยื่อ เรา..ไม่ควรจะกินพร้อมเปลือ
แต่พวกฉลาดเสือกบอกให้เอาแต
แต่มันไม่รู้ว่า เนื่อเยื่อ ที่มันเลือกและตัดสิน ด้วยอาการแห่งความฉลาดนั้น
มันก็ยังเป็นแค่เปลือก ที่อยู่ภายใต้ผิว
ยังไม่ใช่เนื้อเยื่อ ที่กินแล้วหวานหอม ชุ่มคอชื่นใจ มันก็ยังแทะไล่กินไปพร้อมเป
ท่านทำลายผิวเปลือก โดยการขูดทิ้ง ขูดเปลือกทิ้ง เพราะมันเป็นแค่เปลือก เหตุเพราะมันไม่ใช่เนื้อมัง
แต่เนื้อมังคุดที่ท่านสำคัญ
ท่านจะฟังเขาไหม.. ในเมื่อ ท่านก็อยากให้ ไอ้พวกโง่ๆ ฟังปราชญ์แห่งท่านเช่นกัน
มังคุดแสนหวาน มันย่อมมีเปลือกรักษา เราผู้ฉลาดพึงปอกเปลือกออกม
เปลือกเราไม่เอา เราไม่กินหรอก เราย่อมทิ้งไป เมื่อถึงเวลา แต่เราก็ควร ทำความฉลาดและรู้ว่า…
เนื้อเยื่อ ที่อยู่คงทนยาวนาน จนมาถึงเราได้ลิ้มได้ลอง เนื้อเยื่ออันหอมหวานเหล่าน
เปลือกเหล่านี้ คือคำกล่าวของเหล่าสาวก ที่รักษาสัจธรรม อันเป็นเนื้อเยื่อ แห่งพุทธศาสนา ให้อยู่มา เป็นเวลาอันยืนยาว
ท่าน…มาทำลายเปลือก เพราะท่านสำคัญว่าไม่ใช่เนื
ไอ้ซ่นตีนเอ๊ย..!! มังคุดพร้อมเปลือกนั่นแหละ มันจะห่อหุ้มเนื้อ เพื่อรักษาเมล็ดพันธุ์ ให้เจริญงอกงาม อยู่รอด สืบทอดต่อไปในวันข้างหน้า
นี่..ท่านมาทำลายเปลือก อันเป็นผู้รักษาเนื้อเยื่อซ
อย่างงี้ในวันข้างหน้า มังคุดที่มีแต่เนื้อเยื่อ มันจะหาเปลือกหนาๆ หนแห่งไหน
เรา..จึงไม่ควร เอาเปลือกที่ห่อหุ้มเนื้อเย
ื่อทิ้ง เพื่อเห็นแก่กินแต่เนื้อเยื ่อ เรา.. ควรเอาทั้งเปลือกและเนื้อเย
ื้อ รักษา ดูแลไว้ เพื่อส่งต่อไป ให้ลูกหลานเขาปอกของเขาเอง
เมล็ดพันธุ์ ที่ฝังซ่อนอยู่ในเนื้อเยื่อ
สัจธรรมนี้ ที่เติบใหญ่ จนออกผลและเมล็ดใบ มันอาศัยเหตุและปัจจัย ไม่ได้เติบใหญ่ด้วยเนื้อเยื
ท่าน..เอาพระพุทธรูปไปขว้าง
เปลือกไม่มี เนื้อเยื่อจะเอาอะไร มาห่อหุ้มไว้ ความสดใหม่ที่คงอยู่ ก็คงเป็น สัจธรรมที่อัดกระป๋องไว้ รอการเปิดใส่น้ำแข็งคนๆ หน่อ
วันนี้ ขอโม้ไว้แค่นี้ก่อน เพราะมีแขก แล้วจะมาโม้ต่อ เรื่องที่แกทิ้งพระพุทธรูป แกนี่ มันเป็นสงฆ์ ที่กลายเป็นเส็ง จริงๆ
อีกหน่อยก็จะกลายเป็นพวกเส็
พระธรรมเทศนา ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง